“2-3 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรมฟิตเนสได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานออกกำลังกายกาย (Fitness Center) ทั้งขนาดใหญ่ (Big Box Club) และขนาดเล็ก (Studio Fitness) รวมทั้งผู้รักการออกกำลังกายที่บ้าน (Home Fitness) เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง หุ่นดีขึ้น กินยาน้อยลง หรือลดความเจ็บป่วยจากการนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ได้มีวิธีการออกกำลังกายแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้เวลาไม่มาก ไม่น่าเบื่อจำเจ
การออกกำลังกายที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีความต้องการเพิ่มขึ้นในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
หนึ่งในนั้นคือ การออกกำลังกายที่เรียกว่า Functional Training Workout (การออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง)
โดยจะเป็นการออกกำลังเพื่อฝึกความเคลื่อนไหว แบบทุกทิศทาง ต้านกับแรงโน้มถ่วงของโลก เน้นกล้ามเนื้อหลายส่วนที่จำเป็น มีทั้งแบบใช้น้ำหนักของผู้ออกกำลังกาย และการเพิ่มน้ำหนักโดยใช้อุปกรณ์เสริมเฉพาะ (fitness accessories) โดยการฝึกครูฝึกจะแนะนำผู้ฝึกในแต่ละท่า น้ำหนัก ทิศทาง และกล้ามเนื้อ
Functional Training Benefits
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง
1. ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้ดีขึ้น (Improve Posture)
2. ช่วยเพิ่มระยะหรือมุมของการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Range of Motion)
3. ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ (Great for Flexibility)
4. ช่วยลดความเครียด (Provides Stress Relief)
5. ช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมันในร่างกาย (Burns Fat)
6. ช่วยเพิ่มการทนต่อความเหน็ดเหนื่อย (Increases Endurance)
7. ช่วยให้เกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อยากขึ้น หรือช่วยให้กล้ามเนื้อกลับมาใช้งานปกติได้เร็วขึ้น (Helps Muscles Recover Faster After Injuries)”